โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ สัญลักษณ์ความหรูหราและความเป็นไทยใจกลางเมืองมากว่า 50-60 ปี วันนี้กลับมาในรูปแบบแลนด์มาร์กครบวงจร กับ "Dusit Central Park" ที่รวมโรงแรม ที่อยู่อาศัย อาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า และสวนสาธารณะ การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไม่ใช่เพียงการปรับโฉมตามเทรนด์อสังหาริมทรัพย์ แต่เป็นการสานต่อความทรงจำและคุณค่าของครอบครัวดุสิต ผ่านวิสัยทัศน์ของผู้บริหาร พร้อมเปิดพื้นที่ให้ผู้คนเข้ามาใช้ชีวิตและสัมผัสความงดงามของเมือง เรื่องราวต่อไปนี้คือบทสนทนากับ คุณชนินทธ์ โทณวณิก รักษาการประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.ดุสิตธานี ผู้ซึ่งนำตำนานไทยมาสู่หน้าใหม่ของเมือง พร้อมแบ่งปันมุมมองและวิสัยทัศน์ที่สะท้อนการเชื่อมโยงอดีต ปัจจุบัน และอนาคตของชีวิตคนเมือง
คุณชนินทธ์ โทณวณิก รักษาการประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.ดุสิตธานี
จากโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ
สู่ Dusit Central Park
จากตำนานสู่การสร้างสรรค์แห่งอนาคต
“ผมมองว่า Dusit Central Park เป็นบทสานต่อของตำนาน ไม่ใช่การเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด แต่เป็นการให้ชีวิตใหม่กับสิ่งที่มีคุณค่าอยู่แล้ว ” คุณชนินทธ์ กล่าวอย่างมั่นใจ
Dusit Central Park วิสัยทัศน์เพื่อเมืองและสำหรับทุกคน
คุณชนินทธ์ อธิบายแนวคิดเบื้องหลังว่า เราต้องการให้ Dusit Central Park เป็นมากกว่าแค่คอมเพล็กซ์อาคารสูง เป็นพื้นที่ที่เติมเต็มความต้องการของเมือง ทุกองค์ประกอบถูกออกแบบเพื่อสร้างคุณค่าให้ผู้คน โดยโครงการประกอบด้วย 4 ส่วนสำคัญ
- ส่วนที่ 1 โรงแรมดุสิตธานี : สร้างแบรนด์โรงแรมไทยให้กลับมาแข็งแกร่ง และพร้อมแข่งขันในเวทีโลก
- ส่วนที่ 2 Dusit Residences : ที่พักอาศัยใจกลางเมืองที่เป็นส่วนสำคัญด้านการลงทุน เพื่อทำให้โครงการเกิดขึ้นได้จริง
- ส่วนที่ 3 Central Park Offices & Retail : พื้นที่สำนักงานและศูนย์การค้า ออกแบบเพื่อตอบโจทย์ “Urban Amenity Desert” ของย่านสีลม-สาทร ที่แม้มีคนหนาแน่น แต่ขาดพื้นที่อำนวยความสะดวกคุณภาพ
- ส่วนที่ 4 สวนลอยฟ้า (Rooftop Park) : พื้นที่สีเขียวขนาดกว่า 7 ไร่ เปิดให้ชุมชนและคนกรุงเทพฯ ทุกคนได้เข้ามาใช้ชีวิต เป็นเสมือนหัวใจของโครงการที่สะท้อนวิสัยทัศน์เพื่อส่วนรวม
สวนดุสิตอรุณ สวนที่เติบโตจากหัวใจ
“สวนดุสิตอรุณ” ที่เที่ยวแลนด์มาร์กสีเขียวแห่งใหม่ใจกลางกรุง ยินดีต้อนรับให้ทุกคนมาเช็กอิน
คุณชนินทธ์ มองสวนดุสิตอรุณเหมือนโอเอซิสกลางเมือง เชื่อมผู้คน ธรรมชาติ และความทรงจำเข้าด้วยกัน
วิสัยทัศน์เหล่านี้สะท้อนปรัชญาที่สืบทอดมากับครอบครัวดุสิต “คุณแม่สอนว่า ทำอะไรก็ตามต้องคิดถึงชุมชน นี่คือหลักคิดที่เราพยายามนำมาใช้กับทุกองค์ประกอบของโครงการ” คุณชนินทธ์ กล่าวย้ำอีกครั้ง
ทั้งนี้ สวนลอยฟ้าแห่งนี้ถูกออกแบบอย่างละเอียดตั้งแต่โครงสร้างไปจนถึงพืชพรรณ ต้นไม้ทุกต้นถูกคัดเลือกตามเกณฑ์ 3 ข้อสำคัญ คือ
1. เป็นพรรณไม้ไทยที่ปรากฏในวรรณคดีโบราณ เช่น ไตรภูมิพระร่วง
2. มีชื่อเป็นมงคล สื่อถึงความเป็นสิริมงคล
3. มีคุณสมบัติช่วยดักจับฝุ่นละออง PM2.5 เพิ่มคุณภาพชีวิตให้คนเมือง
นอกจากความสวยงามแล้ว พื้นที่นี้ยังเปิดให้ประชาชนทุกคนเข้ามาใช้บริการโดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อเป็นปอดสีเขียวและที่พักผ่อนหย่อนใจใจกลางกรุงเทพฯ “เราต้องการให้ทุกคนเข้าถึงสวนนี้ได้เหมือนเป็นของตัวเอง ไม่จำกัดเฉพาะแขกโรงแรมหรือผู้พักอาศัย นี่คือการเชื่อมโยงเมือง ธรรมชาติ และชุมชนเข้าด้วยกัน” คุณชนินทธ์ กล่าวปิดท้าย
ผลลัพธ์ของ “สวนดุสิตอรุณ” เรียกว่าเกินความคาดหมาย สวนได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม กลายเป็นแม่เหล็กหลักที่ดึงดูดผู้คนเข้าสู่โครงการทั้งหมด และพิสูจน์ให้เห็นว่าองค์ประกอบที่ไม่ได้มุ่งหวังผลกำไรโดยตรงสามารถสร้างความสำเร็จเชิงพาณิชย์ได้อย่างยั่งยืน
เบื้องหลัง Dusit Central Park สถาปัตยกรรมเพื่อชีวิตและความยั่งยืน
โครงการนี้ถูกออกแบบบนพื้นฐานของความสมดุลระหว่างผลกำไรและประโยชน์ส่วนรวม อาคารโรงแรมถูกวางเอียงเล็กน้อย แม้จะเพิ่มต้นทุนก่อสร้าง แต่กลับสร้างมุมมองที่ดีที่สุดสู่สวนลุมพินี พร้อมหลบแสงแดดโดยตรง ทำให้ผู้เข้าพักสบายมากขึ้น ซึ่งเป็นผลจากประสบการณ์ส่วนตัวของผู้บริหารที่ว่า “ผมเบื่อมากกับการมองเห็นไฟ 2 สีจากรถยนต์ (ไฟรถติด) ก็เลยขยับตึกมาแบบนี้”
จุดเดียวในกรุงเทพฯ ที่สามารถมองเห็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่สุด 2 แห่ง คือ สวนลุมพินีและสวนเบญจกิติ มาบรรจบกัน
เราไม่ได้สร้างเพียงอาคาร แต่สร้างประสบการณ์การอยู่อาศัยที่ผสานทั้งศาสตร์และศิลป์เข้าด้วยกัน ตั้งแต่ฮวงจุ้ยที่สมดุล ไปจนถึงเลขมงคลที่เติมความหมาย ให้พื้นที่ทุกตารางเมตรมีพลังและคุณค่ามากกว่าแค่ความสวยงาม
คุณชนินทธ์ โทณวณิกรักษาการประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.ดุสิตธานี
ห้องพัก Resident ทุกยูนิตถูกออกแบบให้มีหน้าต่างรับลมและระบายอากาศตามธรรมชาติเต็มที่ เนื่องจากผู้บริหารไม่ชอบห้องที่ถูกอัดด้วยแอร์ตลอดเวลา และใช้ระบบปรับอากาศที่สามารถติดตั้งไส้กรองเพื่อกำจัดฝุ่น PM2.5 และใช้กระจกซ้อน 3 ชั้น เพื่อกันเสียงรบกวนและลดความร้อนอีกด้วย
“ทุกองค์ประกอบของโครงการสะท้อนเจตนารมณ์ในการสร้างพื้นที่ที่เชื่อมโยงผู้คน ชุมชน และเมือง Dusit Central Park จึงเป็นมากกว่าตึกสูง แต่เป็นพื้นที่ที่คนเมืองสามารถใช้ชีวิตได้เต็มที่ พร้อมสืบสานคุณค่าของตำนานดุสิตธานีไปพร้อมกัน” รักษาการประธานกรรมการ บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) กล่าวทิ้งท้าย
Dusit Central Park ไม่ได้เป็นเพียงโครงการมิกซ์ยูสที่ทันสมัย แต่คือความพยายามในการสร้างสถานที่ที่ “คนไทยภาคภูมิใจ” และเป็นต้นแบบของการพัฒนาเมืองที่ยั่งยืน โครงการนี้ได้สร้างมาตรฐานใหม่ที่พิสูจน์ให้เห็นว่าผลประโยชน์เชิงพาณิชย์สามารถผสานเข้ากับความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างงดงาม ความสำเร็จของโครงการ โดยเฉพาะสวนลอยฟ้า จะสร้างแรงผลักดันเชิงบวกให้โครงการพัฒนาขนาดใหญ่ในอนาคตต้องหันมาให้ความสำคัญกับการสร้างประโยชน์คืนสู่ส่วนรวม ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว ผลลัพธ์ที่ได้ไม่ใช่แค่เพียงอาคารที่สวยงาม แต่คือเมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นสำหรับทุกคน






